วันจันทร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2554

บทพิสูจน์แมนยู

แม้ว่าแมนยูเพิ่งถล่มเบอมิ่งแฮมมากระจุย 5-0 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา แต่นั่นเป็นการเล่นในบ้านตัวเองอย่างที่ทราบๆกันว่าแม้แมนยูแข่งไปแล้ว 22 นัดยังไม่แพ้ทีมใดแต่เกมส์เยือนยังน่าหนักใจครับเล่นไป 10 นัดชนะแค่ 2 เสมอถึง 8 (โดนตีเสมอช่วงท้ายเกมส์บ่อยมาก) วันนี้การบุกไปเยือนแบล็คพูลถือเป็นบททดสอบของแมนยูเลยครับถ้าวันนี้ชนะได้กำลังใจมาเป็นกองแล้วพร้อมประกาศตัวพร้อมชนทุกทีม แต่ถ้าเสมอขึ้นมาก็ต้องฝ่อกับเกมส์เยือนต่อไปแล้วถ้าโลกแตกดันแพ้ขึ้นมากำลังใจจากนัดก่อนจะตกเป็นหุ้นเลยครับ นัดนี้สำคัญจริงๆนะครับผมหวังว่าป๋าคงจัดหนักนะครับ ถ้าส่งชุดลูกผสมมีหวังได้ลุ้นกันตัวโก่งแน่ ทางด้านแบล็คพูลไม่ใช่ทีมที่น่ากลัวอะไรมากได้เปรียบแค่การเป็นเจ้าบ้านส่วนเรื่องตัวผู้เล่นเป็นรองแมนยูอยู่มากครับ คืนนี้เจอกันจะเคี้ยวหมูหรือจะโดนหมูกัดแล้วรู้กัน ^^

วันอาทิตย์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2554

แมนยู (โคตร) ดุ 5 - 0 พูลสวัสดิ์

ก่อนเกมส์เบอร์มิ่งแฮมผมแอบหวั่นๆว่าต้องหืดจับแน่ๆ แม้ว่าจากสติถิเบอร์มิ่งแฮมไม่เคยบุกมาชนะแมนยูได้เลยแต่ช่วงหลังๆทีมเค้าก็เล่นดีนะครับ เห็น 11 ตัวจริงของแมนยูที่ลงสนามก็พอใจครับขาดแค่ริโอ (สมอลลิ่งลงแทน) ราฟาเอล (ที่ติดโทษแบนโดยโอเชลงแทน) เฟชเชอร์ (แต่ได้แอนเดอร์สันลงมาแทนที่จริงอยากเห็นเฟชเชอร์ลงคู่กับแอนเดอร์สันมากกว่า ผมว่าลงตัวกว่าคู่เฟชเชอร์ - คาร์ริกมาก) วันนี้แมนยูเล่นได้ดุดันมากครับทุกคนเล่นได้ดีโดยเฉพาะพี่อาร์ทตัวพ่อ "เบอบาตอฟ" ที่ยิงแฮตทริกได้ (อีกแล้ว) ผมว่าการที่แมนยูได้ประตูเร็วตั้งแต่นาทีแรกทำให้เล่นง่ายขึ้น อีกอย่างที่ต้องชมคือ "แท็คติค" ของป๋าเฟอร์กี้ที่สั่งให้ทุกคนบุกตลอด 90 นาที เกมส์รุกคือเกมส์รับที่ดีที่สุดครับมีหลายนัดที่แมนยูพอนำแล้วมักจะผ่อนเกมส์แล้วลงมาอุดช่วงท้ายเกมส์และนำมาซึ่งการเสียประตูอยู่บ่อยครั้งในนาทีสุดท้าย แต่ไม่ใช่เกมส์นี้ครับ แมนยูครองเกมส์ได้มากถึง 65 - 70% ทั้งเกมส์กับ 5 ประตูที่ได้ถือว่าเยี่ยมมากครับ


วันนี้แผงหลังแมนยูไม่ต้องทำงานหนักมากนักวิดิชเหมือนกำแพงหินที่พอบอลเข้าเขตโทษปุ๊บก็เด้งออกปั๊บสกัดลูกโด่งได้ทุกลูก สมอลลิ่งลงมาทำหน้าที่ได้ดีด้วยรูปร่างสูงใหญ่กว่า 190 ซม. ทำให้ลูกโด่งทำอะไรคู่เซ็นเตอร์ฮาร์ฟแมนยูไม่ได้เลยจริงๆ โอเชลงมาเล่นทางขวาทำหน้าที่ได้ดีครับผมว่าแมนยูมีทางเลือกแล้วครับคือวันไหนที่ต้องการให้แบ็คขวาบุกเต็มตัวก็ส่งราฟาเอลแต่ถ้าต้องการเน้นเกมส์รับมากขึ้นโอเชคือคำตอบที่ดีครับ วันนี้โอเชเกมส์รับด้านขวาแน่นมาก ฟาบิโอได้ลงด้านซ้ายแทนเอฟร่า เด็กคนนี้เล่นได้ดีไม่แพ้คู่แฝดเลยแถมมีความนิ่งมากกว่าด้วยซ้ำ เห็นเล่นแบบนี้บอกแทนเอฟร่าเลยว่ามีหนาวครับ

กองกลางวันนี้ลงตัวมากครับแอนเดอร์สันลงมาทำให้กองกลางมีความหลากหลายมากขึ้นผ่านบอลแบบ passing killer ได้หลายครั้งคนนี้แหละอนาคต (ถ้าไม่ออกทะเลซะก่อน --") คาร์ริกก็เล่นได้ดีครับแต่ฟอร์มเก่งยังหาไม่ค่อยเจอ นี่ก็แว่วๆมาว่าป๋าเริ่มไม่ปลื้มและอาจไม่ต่อสัญญาแต่ก็อีกตั้ง 18 เดือนสู้ต่อไปละกัน วันนี้กิ๊กเป็นอีกคนที่เด่นมากการเลี้ยงบอลของเค้าไม่เหมือนคนอายุ 37 เลยกระชากซะกองหลังเบอร์มิ่งแฮมกระจุยไปหลายหนแถมยิงได้ 1 ประตูด้วยครับของเค้าดีจริง นานี่เล่นทางด้านขวาได้วูบวาบมากแต่ผมว่าเค้าต้องลดอีโก้ลงนิดจะดีมาก มีหลายครั้งที่น่าจะเปิดแต่ยังดื้อที่จะยิงเล่นเอาเบอร์บาตอฟและรูนี่ห์ค้อนไปตามๆกัน ยังดีที่ทำได้ 1 ประตูและทีมชนะไม่งั้นมีหวังโดนป๋ากระโดดถีบขาคู่แน่ๆ 555

กองหน้าชั่วโมงนี้ต้องยกให้เค้าล่ะครับ เบอร์บาตอฟยิงประตูได้คมมากแถมยังมีส่วนสำคัญอย่างมากกับเกมส์รุกแมนยู ผมว่าแค่แฟนบอลเสียเงินเข้าไปดูเบอร์บาตอฟเล่นก็คุ้มแล้วครับ (ถ้าวันไหนเล่นไม่ออกก็ซวยไป 555) ผมว่าตอนนี้เบอบาตอฟเล่นเข้ากับระบบของแมนยูอย่างลงตัวทีจังหวะเข้าทำและผ่อนเกมส์อย่างเหมาะเหม็ง ค่าตัว 30 ล้านปอนด์เริ่มคืนทุนและแปรเปลี่ยนเป็นกำไรอย่างไม่ต้องสงสัย รูนี่ห์แม้ทำประตูไม่ได้แต่มีส่วนกับเกมส์ทำลายร้างของแมนยูอย่างไม่ต้องแคลงใจ ที่ไหนมีบอลที่นั่นมีรูนี่ห์ ผมว่าถึงเวลาที่ป๋าต้องทบทวนตำแหน่งของรูนี่ห์แล้วครับ วิญญาณเพชรฆาตรูนี่ห์น้อยไปมากแต่เซ็นต์บอลเค้าเพิ่มเป็นทวีคูณ ถ้าขืนให้เล่นหน้าเป้าอีกมีแต่ทำให้กำลังใจรูนี่ห์เสียไป ผมว่ารูนี่ห์เหมาะที่จะเล่นกลางหรือหน้าต่ำมากกว่านะครับ สรุปแล้ววันนี้แมนยูเล่นได้ดีมาก มากจนราศีแชมป์จับเลยครับ 555

วันเสาร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2554

เมื่อแมนยูเหล่นักเตะญี่ปุ่น

ใช่แล้วครับแมนยูมีข่าวว่ากำลังให้ความสนใจชินจิคาซาว่านักเตะชาวญี่ปุ่นวัย 21 ปีของดอทมุนด์ในบุนเดสลีกาเยอรมัน ตอนนี้คาซาว่าร่วมกับนักเตะยังบลัดของดอทมุนด์ทำผลงานได้ดีจนช่วยให้ทีมนำเป็นจ่าฝูงและมีโอกาสคว้าแชมป์ค่อนข้างสูง ดอทมุนด์พอรู้ว่าแมนยูแอบเหล่ก็โก่งค่าตัวไปซะ 20 ล้านปอนด์ โฮ้ว....ผมเองก็ไม่ค่อยดูบอลเยอรมันเลยไม่รู้ว่าว่าคาซาว่าเล่นดีแค่ไหน จนวันนี้ผมได้ดูเอเชี่ยนคัพระหว่างญี่ปุ่นกับกาตาร์ซึ่งญี่ปุ่นเอาชนะไปได้ 3-2 ทั้งที่มีผู้เล่นน้อยกว่าและตามถึง 2 ครั้ง 2 ครา ผมแอบไปเห็นนักเตะหมายเลข 10 ของญี่ปุ่นวันนี้ โอ้วแม่เจ้าเล่นดีมากครับ คล่องแคล่วยังกะลิง เยือกเย็นยามอยู่ในเขตโทษ วันนี้ซัดไปสองและมีส่วนกับประตูชัยช่วงนาทีสุดท้ายด้วย


นักเตะหมายเลข 10 วันนี้ไม่ใช่ซึบาสะครับ แต่เค้าคือชินจิคาซาว่านักเตะที่แมนยูหมายปอง ถ้าได้มาล่ะก็เจ๋งเลยครับแต่ผมไม่แน่ใจว่าในทีมดอทมุนด์คาซาว่าเล่นตำแหน่งไหนแต่ในทีมชาติเค้าเล่นเหมือนหน้าต่ำกึ่งซ้ายๆ ถ้าเอามาแมนยูขืนให้เล่นหน้ามีหวังโดนกองหลังอัดน่วมแน่ แต่ถ้าให้เล่นกองกลางมาทำเกมส์แทนสโคลส์ก็ไม่รู้ว่าจะรับแรงกดดันไหวเปล่า แต่ตอนนี้ปัญหาคือค่าตัว 20 ล้านปอนด์ผมว่าแมนยูไม่มีทางจ่ายค่าตัวขนาดนี้แน่นอนครับ ผมว่าต่อรองกันได้นะดูอย่างปาร์คสิครับย้ายมาจากไอโฮเฟ่นแค่ 4.5 ล้านปอนด์เอง ตอนแรกไอโฮเฟ่นก็เรียกค่าตัวแพงระยับเหมือนกันแต่ต่อไปต่อมาอีกทั้งนักเตะก็มีใจอยากย้าย เชื่อผมเหอะนักเตะเอเชียร้อยทั้งร้อยอยากมาแมนยูทั้งนั้นแหละครับอยู่ที่แมนยูต่างหากว่าอยากได้จริงอ๊ะเปล่า ต้องลุ้นครับอาจได้ของดีราคาถูกเหมือนปาร์คก็ได้นะครับงานนี้

วันศุกร์ที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2554

ถึงเวลาถ่ายสายเลือด

วันนี้แมนยูมีข่าวอีกแล้วว่าซัมเมอร์นี้มีนักเตะถึง 10 คนที่จะก้าวออกจากโอลแทรฟฟอร์ด 10 คนนี่น่าตกใจนะครับแต่ถ้าถึงเวลาก็คงเลี่ยงไม่ได้ มาไล่เรียงกันถึงความเป็นไปได้ของแต่ละคนเลยครับ

 
1. เอ็ดวินฟานเดอซาร์:
ผู้รักษาประตูวัย 40 กระรัตที่ประกาศแขวนถึงมือหลังจบซีซั่น แม้ว่าแมนยูจะมีคุซแซ็คและลินกาเด้แต่ผมว่าสองคนนี้ยังห่างจากขีดความสามารถของน้าซาร์มาก บอกจริงๆว่าหนักใจครับ ฟานเดอร์ซาร์มีทุกอย่างที่ผู้รักษาประตูต้องมีไม่ว่าจะเป็นส่วนสูง (กว่า 196 ซม.) ปฏิกริยาที่รวดเร็ว การตัดบอลที่เด็ดขาด การเปิดบอลที่แม่นยำ และที่สำคัญคือ "ความสม่ำเสมอ" ครับ สรุป: เสียดายไม่อยากให้ไปเลยครับ แต่คงจะรั้งไว้ยาก

2. แกรี่เนวิลล์: แบ็คขวาอดีตกัปตันทีม ผมบอกตรงๆว่ามันถึงเวลาสำหรับเนวิลล์แล้วจริงๆ ตอนนี้ไม่เหลือลายแล้วครับ ด้วยสังขาร ตำแหน่งแล้วไปดีเถอะครับ ลงทีไรตอนนี้โดนกองหน้าฉีกกระจุยทุกที ตอนนี้แมนยูก็มีราฟาเอลที่ป๋าคอยปั้นอยู่แล้ว โชคดีนะแกรี่ สรุป: ถึงเวลาต้องจากลาด้วยดีครับ

3. พาทริคเอฟร่า: มีข่าวเป็นระยะว่าเอฟร่าต้องการย้ายไปหาความท้าทายใหม่ๆหลังจากได้ทุกแชมป์กับแมนยู ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงเสียดายมากแต่ตอนนี้ฟอร์มเอฟร่าแผ่วไปเยอะ รุกไม่ดุดันเหมือนเคยแถมรับยังรั่วอยู่บ่อยครั้ง นี่แมนยูก็สนใจเลตันเบนชองเอฟเวอตันอยู่ ถ้าได้มาเจ๋งเลยครับคนนี้เกมส์รับดีรุกจ๊าบแถมฟรีคิกดีมากมาย อยากไปก็ไปอย่าได้แคร์ สรุป: อยากไปก็ไปแต่ขอราคาดีๆหน่อยนะครับป๋า

4. ไรอันกิ๊ก: คนนี้ยังไงแน่แหะเมื่อวานยังมีข่าวว่าเพิ่งต่อสัญญา แต่ถ้ากิ๊กไปด้านซ้ายคงแผ่วไปเยอะแม้ว่ากิ๊กจะไม่จี๊ดจ๊าดเหมือนเมื่อก่อนแต่ก็มีความเก๋ามาทดแทน ตัวที่จะมาทดแทนไม่ว่าโอแบตองหรือเบเบ้สู้ไม่มีจะดีกว่า ลงมาทีไรผมล่ะปวดตับทุกทีเล่นไม่ได้เอาอ่าวเลยเอาไปขายในอีเบย์ได้มั๊ยเนี่ย 555 ผมอยากได้เบลล์มากมายคนนี้ล่ะครับกิ๊ก 2 ของแท้แต่ปัญหาคือทำยังไงให้สเปอร์สปล่อยตัว --" สรุป: ผมว่ากิ๊กยังไม่เลิกหรอกครับ ดูยังมีความกระหายอยู่น่าจะเล่นได้อีกอย่างน้อย 1 ปี
5. พอลสโคลส์: เป็นอีกคนที่หาตัวแทนได้ยากมาก ป๋าพยายามปั้นแอนเดอร์สันมาแทนที่แต่ดูไปดูมาสองคนนี้เด่นคนละด้านครับ สโคลส์จะเด่นด้านเปิดบอลทำเกมส์และยิงไกล แต่แอนเดอร์สันเน้นตัดเกมส์เชื่อมเกมส์ลูกยิงไกลไม่ต้องพูดถึงครับ (ใกล้ๆยังต้องลุ้นตัวโก่งเลย) หลังจากเกมส์สเปอร์สทำให้รู้ว่าแมนยูต้องการนักเตะอย่างสโคลส์จริงๆ แต่ด้วยวัยทำให้สโคลส์ช้าลงไปมาก ใจจริงแล้วผมอยากได้โมดริชมาแทนที่เค้านะครับ โมดริชเหมือนสโคลส์มากแต่เด่นกว่าในเรื่องการครองบอลและความคล่องครับ ถ้าได้มาล่ะฮึ่ม....สรุป: สาเหตุเดียวที่ทำให้สโคลส์เลิกเล่นคือสภาพร่างกายและแรงจูงใจในการเล่น ต้องดูกันตอนจบซีซั่นว่าเค้าจะตัดสินใจอย่างเด็ดขาดยังไง

6. ดารอนกิ๊บสับ: เริ่มไม่มีความสุขหลังจากไม่ค่อยได้ลงสนาม ตอนแรกใครๆก็ว่ากิ๊บสันเป็นรอยคีน 2 แต่ผมว่าเค้าไม่ได้ใกล้เคียงเลยให้ตายสิ สำหรับผมแล้วกิ๊บสันเป็นแค่นักเตะเกรด C+ มีดีแค่ลูกยิงไกล (อย่างเดียวเลยจริงๆ) ที่เหลือไม่ว่าจะเป็นการครองบอล ตัดเกมส์ เปิดบอล และเซ็นต์บอลผมว่าธรรมดามากๆ และไม่ได้มาตรฐานกับตำแหน่งตัวจริงของแมนยูเลยครับ ผมสังเกตว่ากิ๊บสันลงเล่นแต่ละนัดพี่แกกะลงไปส่องอย่างเดียวเลย ถ้าวันไหนเรดาห์ไม่ทำงานเหมือนแมนยูเล่นแค่ 10 คนจริงๆเลย สรุป: อยากไปก็ไปครับ

7. โอเว่นฮากรีฟ: คนนี้คงค้องโบกมือลากันอย่างแน่นอน เจ็บนานและบ่อยเกินกว่าจะเยียวยาแล้วครับ แถมอายุก็เข้า 30 ปีนี้ด้วยแล้วเก็บไว้ก็ไม่มีประโยชน์ครับ จำไว้เลยนะบาเยิร์นย้อมแมวมาขายแมนยูซะได้ สรุป: อยู่บ้านพักผ่อนเถอะฮาร์โก้

8. ไมเคิลโอเว่น: แปลกใจแต่แรกแล้วทีป๋าดึงตัวเข้ามา โอเว่นเจ็บง่ายและที่สำคัญคือโอเว่นเลยจุดสุดยอดในอาชีพไปนานมากแล้ว นับวันฟอร์มการเล่นมีแต่ทรงกับทรุด อีกอย่างผมว่าค่าเหนื่อยของโอเว่นคงไม่น้อยแน่ๆเลยเก็บเอาไว้ก็เปลืองงบนะครับหนี้ยิ่งเยอะๆอยู่ สรุป: บ๊าย บายนะเจ้าหนูเตาอบ (owen)

9. โทมัสคุซแซ็ค: ใจร้อนจริงๆคนนี้อยู่ดีๆก็ยื่นคำขาดว่าถ้าไม่ได้เป็นมือ 1 จะขอย้ายทีม ท้าทายใครไม่ท้ามาท้าป๋าวอนซะแว้ว บอกตรงๆว่าคุซแซ็คเล่นใช้ได้นะครับแต่ดูยังไงๆโหวเฮ้งก็ยังไม่เหมาะกับมือ 1 ในถิ่นโอลแทรฟฟอร์ด แต่ถ้าอดทนสักนิดโชว์ฟอร์มดีต่อเนื่องโอกาสมือ 1 ก็ยังมี (แม้จะไม่มาก) แต่ออกมาโวยวายแบบนี้ชักไม่งามซะแล้ว สรุป: ถ้าอยู่ก็ต้องพิสูจน์ฝีมือครับ แต่ถ้าโวยวายมากๆโดนป๋าเด้งแหงมๆ

10. เวสบราวน์: ออกมาตะแง้วๆอยากย้ายทีมอีกคน แต่ผมว่าบราวน์ควรอยู่ (เป็นตัวสำรอง) ของแมนยูต่อไปดีกว่านะครับสลับกันเล่นกับราฟาเอล บราวน์น่าจะรู้ว่าตัวเองเรียกร้องอะไรมากไม่ได้เพราะฟอร์มการเล่นไม่ได้ดีเด่อะไรมากนัก สรุป: นานาจิตตังครับไม่มีความสุขจะย้ายก็ได้นะ

วันพฤหัสบดีที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2554

อยากได้ อยากได้

ช่วงตลาดเปิดหลายทีมขยับตัวแมนยูของผมอยู่นิ่งสนิทเลย เฮ้อแต่ก็มีข่าวดีว่าแมนยูต่อสัญญาให้ปู่กิ๊กอีก 1 ปีบอกตามตรงนะครับว่ากิ๊กรักษาสภาพร่างกายได้ดีมากแต่พรีเมียร์ลีกเป็นลีกที่ต้องใช้ร่ายกายอย่างมากกลัวว่ากิ๊กจะเดี้ยงจริงๆ เอาน่าไม่ได้ตัวใหม่แต่ตัวเก๋ายังอยู่ก็โอนะ ถ้าน้าฟานเดอร์ซาร์เปลี่ยนใจไม่แขวนถุงมือหลังจบฤดูกาลจะเจ๋งเลยผมว่าเค้าสามารถเล่นได้อีก 2-3 ปีสบายๆเลยนะครับ ด้วยตำแหน่งแล้วน่าจะเล่นต่อได้.....เปลี่ยนใจมาช่วยแมนยูต่อเถอะครับ please บอกตามตรงว่าตัวสำรองที่มีอยู่ยังไม่น่าไว้ใจ ตอนนี้ไม่ซื้อตัวใหม่ยังได้อยู่แต่ช่วงซัมเมอร์ไม่ซื้อมีเคืองนะครับป๋า

วันนี้มีข่าวว่าลิเวอร์พูลใกล้ได้หลุยซัวเรสกองหน้าชาวอุรุกวัยของอาแจ็คอัมเตอดัม บอกจริงๆว่าผมชอบคนนี้มากครับ ลีลาดีครองบอลเยี่ยมแถมยิงประตูได้คมอีกด้วย ข่าวว่าค่าตัวแค่ 18 ล้านปอนด์แมนยูน่าจะแจมนะครับ ผมว่าซัวเรสน่าจะสนใจแมนยูเหมือนกันน้า ซัวเรสกองหน้าระดับโลกค่าตัว 18 ล้านปอนด์ ดาเรนเบนด์กองหน้าบ้านๆ ค่าตัว 20 กว่าล้านปอนด์ เจริญล่ะพ่อ แต่อย่างว่าล่ะครับแมนยูไม่ต้องการกองหน้าตอนนี้แต่ต้องการกองกลางมากกว่า แต่จริงๆได้ซัวเรสมาถอยรูนี่ห์มากลางก็ได้นี่ครับ (เห็นพี่หมูชอบลงมาล้วงบอลตรงกลางออกจะบ่อย ) เอาน่าแฟนแมนยูต้องอดทน แต่ซัมเมอร์ขอแหล่มๆซักคนจะเป็นพระคุณเลยครับ แบบไก่กาอาราเร่ไม่อาแล้วนะขอร้อง...

วันพุธที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2554

คิดถึงยาปสตัม

วันนี้นั่งจัดห้องเลยไปเจอสมุิ๊กเกอร์นักบอลที่ฮิตเมื่อสิบปีก่อน (เลยรู้ว่าเราแก่เลย 555) เลยเปิดดูซะหน่อยนี่เราก็บ้าเนอะสะสมไปทำไมตอนนี้เปิดเน็ตรูปให้เพียบ เมื่อก่อนก็ไม่มีใครบอกนี่นาว่าอนาคตพี่กู (เกิ้ล) เค้ารู้ทุกอย่างตรูจะได้ไม่ต้องเสียตังค่าขนมไปซื้อสมุดสติ๊กเกอร์ --" เปิดไปเปิดมาไปเจอรูปยาปสตัม ถ้าใครยังจำสตัมได้เค้าคนนี้เหมือนสโตนโคลล์ (นักมวยปล้ำ) ตั้งแต่ดูแมนยูมาผมว่าสตัมเนี่ยเป็นกองหลังที่เก่งมากผมว่าเก่งระดับท็อป 3 กองหลังตลอดกาลของแมนยูเลยครับ


สตัมย้ายมาจากพีเอสวีไอโฮเฟ่นประมาณปี 97 ท่าจะได้ด้วยค่าตัว 10.75 ล้านปอนด์ ตอนนั้นผมว่าแพงมากเลยสำหรับกองหลังในยุคนั้น แต่ตอนนี้เลสคอตย้ายไปแมนซิตี้ด้วยค่าตัว 24 ล้านปอนด์แต่ฝีเท้าไม่ได้ครึ่งสตัมเลย 555 สตัมมีรูปร่างที่สูงใหญ่กว่า 191 ซม. แต่วิ่งเร็วมากคิดดูละกันครับว่าสตัมสามารถวิ่งไล่กวดโอเว่น (ตอนฮอตๆได้) ถ้าผมเป็นกองหน้าคงเหวอครับอยู่ๆเหมือนมีรถบรรทุกวิ่งเข้าใส่ สตัมใช้เวลาปรับตัวไม่นานก็เป็นเสาหลักในแผงหลังให้แมนยูได้ และสตัมมีส่วนสำคัญช่วยให้แมนยูคว้า tripple champs ในปี 1999 ลองคิดเล่นๆนะครับว่าถ้าสตัมมาอยู่ยุคนี้แล้วเล่นคู่กับวิดิช โอว้นี่มันคู่กองหลังในฝันชัดๆ สตัมแข็งแกร่งพอๆกับวิดิช แต่มีลูกสกัดที่หนักหน่วงแต่ไม่โฉ่งฉ่างเท่าวิดิชที่สำคัญยิงลูกนิ่งได้หนักมาก ถ้าคู่นี้เล่นด้วยกันเมซซี่ก็เมซซี่เหอะ.....มีหนาว


สตัมกำลังไปได้สวยกับแมนยูแต่ดันไปเขียนหนังสืออัตถชีวิตประวัติแล้วบอกว่าเฟอร์กี้สอนให้เค้าพุ่งล้มเอาจุดโทษ เท่านั้นแหละครับเฟอร์กี้ควันออกหูแล้วขายทิ้งให้ลาซิโอในปี 2001 ด้วยค่าตัว 16 ล้านปอนด์คุ้มนะเนี่ยซื้อมา 10 ใช้งาน 3-4 ปีขาย 16.5 แต่ก็เสียดายครับไม่น่าเลยสตัมเล่นกับใครไม่เล่น แต่หลังๆเฟอร์กี้ก็ขอโทษที่ขายสตัมและทั้งคู่ก็ปรับความเข้าใจกัน สตัมเล่นกับลาซิโอซักพักก็ย้ายไปมิลานและไปแขวนสตั๊ดกับอาแจ็คอัมสเตอดัมในปี 2007

วันจันทร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2554

ไล่เรียงรายตัวกับนักเตะแมนยู

วันนี้ผม the moon (คู่แข่ง the sun) ขอวิเคราะห์และให้คะแนนนักเตะแมนยูในนัดลิ้นห้อยที่เจอกับสเปอร์ส

1.เอ็ดวินฟานเดอซาร์: ไว้ใจได้เสมอแม้วัยจะล่วงเลยมา 40 ปี การยืนตำแหน่งบนเส้นประตูและปฏิกิริยาอันรวดเร็วของน้าเอ็ดช่วยชีวิตแมนยูได้มากครับ ผมยังคิดไม่ออกเลยว่าใครที่เหมาะสมจะมาแทนฟานเดอร์ซาร์ได้ อยากให้เปลี่ยนใจช่วยแมนยูอีกซักซีซั่นก็ยังดี คะแนน 8/10



2.ราฟาเอล
: วันนี้ต้องเจองานหนักสำหรับแบ็คชาวแซมบ้ารายนี้ ต้องปะทะกับเบลล์ที่กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นและก็ตามคาดครับโดนเบลล์พาทัวร์ไปหลายรอบ ราฟาเอลมีจุดเด่นคือการเติมเกมส์รุกและความทุ่มเท แต่มีหลายครั้งเหมือนกันที่เติมเกมส์บุกจนถอยมาตั้งรับไม่ทัน สิ่งที่น่าห่วงอย่างมากคือ "ประสบการณ์และการควบคุมอารมณ์" ถ้าผมเป็นคู่แข่งผมจะยั่วยุให้ราฟาเอลหลุดรับรองว่างานนี้มีแดง ราฟาเอลน่าจะรู้จักความสามารถและตำแหน่งตัวเองมากกว่านี้นะครับ เค้ามักจะเล่นได้ดีในเกมส์ที่เจอกับคู่แข่งที่ไม่เขี้ยวมากนักแต่ถ้าเจอคู่แข่งหินๆ (เช่นเบลล์) ราฟาเอลน่าจะห่วงเกมส์รับมากกว่ารุกเพราะเกมส์รับเป็นหน้าที่ของเค้าโดยตรง แต่แบ็คคนนี้มีความมั่นใจเกินไปจนทำให้ประมาทและเสียฟาล์วง่ายเกินไปโดยไม่จำเป็น อีกทั้งการไปโวยวายใส่ผู้ตัดสินไม่ใช่เรื่องฉลาดเลย ทุกคนก็เห็นอยู่ว่าฟาล์วจริงการไปโวยวายอาจทำให้โดนแบนมากขึ้นก็เป็นได้ นี่ล่าสุดเอฟเอก็จ้องจะฟันเพิ่มอยู่ เอาล่ะผิดเป็นครูครับ (แต่อย่าบ่อยมากนะน้องความอดทนป๋าเค้ามีจำกัด) ข่าวล่ามาแรงแว่วว่าเป็ปกุนซือบาซ่าสนใจราฟาเอลครับแต่แมนยูไม่ขายหรอก กลับมาเข้าเรื่องครับวันนี้เอาคะแนนไป 5/10

3.เอฟร่า: วันนี้เล่นได้ไม่เด่นเลยเติมเกมส์รุกก็ไม่ดีเกมส์รับนี่หนักเลยครับโดนเลนน่อนหลอกซะหัวทิ่มหัวตำซะหลายครั้ง ผมว่าฟอร์มพี่แกแผ่วตั้งแต่นัดก่อนแล้วนะครับ จัดไป 6/10 คะแนน

4.ริโอเฟอร์ดินาน: ยืนตำแหน่งได้ดีและเข้ามาซ้อนราฟาเอลได้บ่อยครั้ง ประสานงานกับวิดิชได้อย่างดีเยี่ยมคนนึง (ส่วนมากจะเป็นวิดิช) เข้าปะทะอีกคนจะคอยเก็บบอล ไม่เห็นข้อผิดพลาดในนัดนี้แต่ที่ห่วงคือดูสภาพร่างกายไม่ค่อยเต็มที่ เห็นทีป๋าต้องเตรียมตัวตายตัวแทนเอาไว้ได้แล้ว จัดไป 8/10 คะแนน
5.วิดิช: ยอดกัปตันทีมชาวเซอเบียร์คนนี้เป็นหัวใจเกมส์รับแมนยูชั่วโมงนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ วันนี้ประกบและแย่งลูกกลางอากาศเคร้าซะอยู่หมัด ไม่อยากเชื่อว่าส่วนสูงต่างกันกว่า 10 เซนติเมตรไม่ใช่ปัญหาเลย วิดิชเข้าสกัดลูกสำคัญได้มากมายนับไม่ถ้วนจนทำให้ลูกโด่งที่เป็นจุดเด่นของสเปอร์สหงอยไปเลยทีเดียว วันนี้วิดิชสมควรได้ตำแหน่ง man of the match ครับ ได้ไป 9/10 คะแนน


6.นานี่:  วันนี้เล่นแบบอยากเบือนหน้าหนีคือไม่ได้ช่วยทีมเลยสิ ครองบอลก็ไม่ได้จ่ายบอลก็ผิดพลาดบ่อยไปๆมาๆราฟาเอลยังเล่นเกมส์รุกได้เด่นกว่านานี่อีก อีกอย่างคือลูกเตะมุมเนี่ยควรจะเปลี่ยนคนได้แล้วครับ ลักษณะการเปิดของนานี่มันไม่ค่อยทำให้ทีมได้เปรียบคือวิถีลูกมันจะโค้งเข้ามือประตูซะส่วนใหญ่ไม่เหมือนกิ๊กที่จะโค้งหนีมือประตูหรือโค้งเข้าหัวเพื่อนมากกว่า วันนี้บังเอาไป 5.5/10 คะแนน

7. เฟชเชอร์: ตัดเกมส์ได้ดีแต่ก็สังเวยด้วยใบเหลือง โดยรวมเฟชเชอร์เล่นได้ดีแต่กองกลางสเปอร์สวันนี้เค้าเทพเกินกว่าที่เฟชเชอร์จะเอาอยู่จริงๆ แต่คนนี้เป็นคนที่แมนยูขาดไม่ได้จริงๆครับ เล่นแบบปิดทองหลังพระคอยเบรคเกมส์คู่แข่งได้บ่อยครั้ง ไม่มีเฟชเชอร์กองหลังเหนื่อยหนักกว่านี้แน่ครับ เอาไป 7.5/10 คะแนน
8.คาริค: ผมอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมป๋าไม่เอาแอนเดอร์สันลงเล่น คาริคเล่นได้ไม่เด่นมากนักฟอร์มยังไม่เด่นเหมือน 2-3 ซีซั่นก่อน แต่ถ้ามองรวมๆแล้วไม่ได้ขี้เหร่อะไรนัก ผมให้ 6.5/10 คะแนน
9.กิ๊ก: การครองบอลที่เหนียวแน่นช่วยทีมได้มากแต่พออายุมากขึ้นความปราดเปรียวก็น้อยลงยิ่งบางจังหวะต้องวิ่งไล่โมดริชเนี่ยทำให้กิ๊กหอบเอาเรื่องเหมือนกัน ผมว่ากิ๊กเล่นเด่นมากในนัดก่อนแต่พอมาเจอคู่แข่งที่แข็งแกร่งมากๆก็ทำให้กิ๊กแผ่วไปเหมือนกัน ผมว่าป๋าน่าจะจริงจังกับการหาตัวตายตัวแทนของกิ๊กซะทีผมว่ากิ๊กคงเล่นได้อีกอย่างมากไม่เกินซีซั่นหน้าคงต้องปดระวาง อย่าบอกนะครับว่าจะเอาโอแบตองกะเบเบ้มาแทนกิ๊ก วันนี้เล่นใช้ได้ผมให้ 7/10 คะแนน

10 รูนี่ห์: แม้จะทำประตูไม่ได้แต่ตามคาดครับรูนี่ห์ลงมาช่วยแดนกลางบ่อยครั้ง และมีโอกาสยิงประตูสองสามครั้งแต่ไม่เป็นประตู วันนี้เห็นรูนี่ห์วิ่งพล่านเลยตั้งแต่หน้ายังหลังด้วยความทุ่มเทผมให้  7.5/10 คะแนน
11. เบอบาตอฟ: ค่อนข้างโดดเดี่ยวในแดนหน้าเพราะรูนี่ห์ง่วนอยู่กลับการลงมาช่วยทำเกทส์แดนกลาง แต่เบอบาตอฟก็แสดงให้เห็นว่าถ้าเค้าได้ครองบอลก็มีเสียวตลอด ให้คะแนนความเสียว 7/10 คะแนน

โดยรวมแล้วทำให้เห็นว่าแดนกลางแมนยูขาดทั้งตัวครองบอลและปีกที่ทำเกมส์ได้ดี เฟชเชอร์และครริคเป็นแค่ตัวเชื่อมเกมส์ นานี่แสดงให้เห็นว่ายังไม่มีความแน่นอน ส่วนกิ๊กเห็นได้ชัดถึงความโรยรา งานนี้ป๋าต้องจัดคนมาแทนด่วนครับไม่งั้นระยะยาวจะแย่เอานะ.....แล้วจะหาว่าไม่เตือน

วันอาทิตย์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2554

แมนยูเสมอ 0-0 แบบลิ้นห้อย

นัดนี้ช่างหนักหนาสาหัสเหลือเกินครับโดนบุกทั้งเกมส์ไม่ต่ำกว่า 60% ของเกมส์แถมยังเหลือ 10 คนในช่วง 15 นาทีสุดท้าย แมนยูบุกไปเยือนสเปอร์สซึ่งแมนยูไม่เคยแพ้มากว่า 10 ปีแล้วแต่ผมเคยพูดไว้เมื่อวันสองวันก่อนว่าสเปอร์สไม่หมูสำหรับแมนยูอีกต่อไป และผมยังเตือนราฟาเอลว่าระวังใบแดง...ป๊าดซื้อหวยไม่ถูกแต่ดันทายเรื่องราฟาเอลถูก ราฟาเอลมีลางร้ายตั้งแต่นาทีแรกของเกมส์โดนเบลล์กระชากซะกระจุย ความเร็วน่ะสูสีครับแต่เบลล์ขายาวกว่าหลายคืบแล้วมันจะวิ่งทันกันได้ไง --"


เปิดเกมส์มาแมนยูก็ตั้งรับกันอุตลุดทั้งเบลล์ โมดริช เลนน่อน ฟานเดอฟาร์ทดาหน้าบุกมากันทุกทิศทุกทางเล่นเอาแมนยูเปิดตำราเกมส์รับกันแทบไม่ทัน กว่าแมนยูจะตั้งเกมส์ได้ก็ปาไปกว่า 15 นาทีแต่ต้องยอมรับว่าเกมส์รุกสเปอร์สเค้าเจ๋งจริงโดยเฉพาะลูก้าโมดริช ตัวเล็กเท่าคนไทยเลยแต่เล็กพริกขื้หนูจริงๆครับ ครองบอลได้เหนียวแน่นและเป็น (โคตร) จอมทัพของสเปอร์สอย่างแท้จริง นัดนี้ดีนะครับที่เบลล์ไม่ท็อปฟอร์มโยนบอลเกินตลอดไม่งั้นแผงหลังแมนยูคงบอบช้ำมากกว่านี้ นัดนี้ผมขอยกนิ้วให้เนมันย่าวิดิชเลยครับถ้าไม่มีเค้างานนี้มีแพ้ครับเล่นลูกกลางอากาศได้เด่นตัดเกมส์ได้ดุดันมากครับ ผมให้วิดิชเป็น man of the match ของแมนยูครับ ส่วนของสเปอร์สต้องยกให้โมดริช มาวิเคราะห์ตำแหน่งรวมๆของแมนยูเลยครับ (รายตัวขอพรุ่งนี้ครับ)

ผู้รักษาประตู: เอ็ดวินฟานเดอซาร์เล่นได้ดีมากไม่มีข้อผิดพลาดให้เห็นเลย ทั้งตัดบอลทั้งป้องกันประตูได้อย่างยอดเยี่ยมแบบไม่มีที่ติ ช่วยให้แมนยูอุ่นใจได้มากเวลาที่มีน้าซาร์เฝ้าเสา ไม่อยากให้แขวนถุงมือเลย

กองหลัง: ราฟาเอลเล่นเกมส์บุกได้ดีมากครับแต่เกมส์รับยังไม่ดีมากนัก แต่สิ่งที่ต้องปรับตัวอย่างแรงคือความทุ่มเทครับ ต้องทุ่มเทอย่างมีกึ๋นหน่อยเรื่องเข้าสกัดแบบเปิดปุ่มเนี่ยต้องเลิกครับแล้วการตัดเกมส์เนี่ยต้องฉลาดหน่อยต้องเรียนรู้อีกหน่อยคงดีขึ้น (หวังว่านะครับ) เอฟร่าก็เล่นใช้ได้ครับแต่เกมส์รับยังหวิวๆยิ่งเจอเลนน่อนเนี่ยโดนกระชากหายซะหลายครั้ง คู่กลางของแมนยูคู่นี้ครับทั้งริโอ-วิดิชเด่นมากช่วยกันสกัดช่วยกันซ้อนดีมากครับ คู่นี้ล่ะทั้งบู๊ทั้งบุ๋น

กองกลาง: วันนี้นานี่เงียบมากครับทำอะไรไม่ได้เลย ส่วนกิ๊กนั้นเล่นได้ตามมาตรฐานของเค้าแต่ด้วยวัยเลยทำให้มีขาอ่อนไปบ้างแต่ก็ช่วยทีมได้เยอะ ส่วนกองกลางคู่ของแมนยูนั้นทั้งเฟชเชอร์และคาร์ริกช่วนกันเล่นได้ดีแต่ดันมาเจอโคตรกองกลางของสเปอร์สเลยลิ้นห้อยไปเลย จากนัดนี้ทำให้รู้เลยว่ากองกลางที่แมนยูมีอยู่นั้นเป็นพวกตัดเกมส์เชื่อมเกมส์ซะมากแต่ไม่มีคนที่ครองบอลและทำเกมส์ได้เลย ป๋าช่วยทุบกระปุกและขายล้างสต๊อกทั้งเบเบ้+โอแบตอง (ลด 80% ไปเลย) แล้วมาทุ่มซื้อดมดริชดีกว่าครับ คอนเฟิร์มว่าคุ้มแน่นอน

กองหน้า: ทั้งเบอบาตอฟและรูนี่ห์ช่วยกันเล่นได้ดีครับ แต่กองกลางปั้นเกมส์ไม่ได้กองหน้าเลยต้องลงมาล้วงบอลบ่อยครั้ง เลยไม่ค่อยมีโอกาสทำประตูมากนัก สรุปทั้งเกมส์แมนยูไม่ได้ดูแย่มากครับพอกล้อมแกล้มไปได้แต่ขอกองกลางแหล่มๆซักตัวนะครับเจ๋งเลย

วันศุกร์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2554

พรีวิวสเปอร์ส - แมนยู

แมนยูต้องบุกเล้าไก่ในวันอาทิตย์นี้ นับว่าเป็นบอลถูกคู่ถูกเวลาทีเดียวเพราะทั้งสองทีมกำลังอยู่ในช่วงท็อปฟอร์ม บอกตามตรงว่าผมชอบเกมส์รุกของสเปอร์สชุดนี้มากทั้งโมดริช เบลล์ ฟานเดอฟาร์ท มีหลายครั้งที่ผมแอบปันใจไปเชียร์สเปอร์สเหมือนกันแต่นัดนี้เชียร์แมนยูสุดตัวครับ แม้ว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมาแมนยูจะชนะสเปอร์สเป็นว่าเล่นแต่นัดนี้คงได้ลิ้นห้อยแน่ ซีซั่นนี้สเปอร์สเป็นทีมที่เล่นดีเป็นวันๆไปมีโอกาสแพ้ชนะได้ตลอด (ไม่ค่อยเสมอ) ส่วนแมนยูเป็นพวกฟอร์มก๊องแก๊งคือเล่นไปเรื่อยเล่นดีก็ชนะเล่นห่วยก็ไม่แพ้ครับ (ก๊องแก๊งอย่างนี้แหละฟาดแชมป์มาเยอะ 555) พอพูดถึงสเปอร์สผมคิดว่าแฟนแมนยูคงนึกถึง super classic match ในปี 2001 ตอนนั้นแมนยูบุกไปเยือนสเปอร์สแต่เหมือนฟ้าผ่าครับครึ่งแรกแมนยูโดนนำไป 3-0 ผมล่ะเหนื่อยใจ แต่ครึ่งหลังแมนยูเหมือนหนังคนละม้วนเปิดฉากมากระหน่ำสเปอร์สซะเละเทะทั้งแอนดี้โคล โลลองบล็อง รุดฟานนิสเตอรอย ฮวนเวรอน เดวิดเบ็คแฮมซัดคนละ 1 ตุงแมนยูพลิกกลับมาชนะ 5-3 เป็นการคัมแบ็คที่สุดยอดมากครับ


ผ่านมา 10 ปีแล้วรู้กัน หึหึ นัดนี้เบลล์ได้ดวลกับราฟาเอลมันส์แน่ แม้ว่าเบลล์จะรวดเร็วเป็นลิงกังแต่ราฟาเอลเห็นล่ำๆตันๆยังงี้วิ่งเร็วปรู๊ดปร๊าดนะครับ แต่ที่ต้องระวังคืออย่าพรวดพราดไม่งั้นมีหวังฟาล์วแหลกแน่ เผลอๆอาจมีแดงได้ งานนี้ราฟาเอลต้องเล่นอย่างระมัดระวังครับ ส่วนแดนกลางคงต้องเป็นหน้าที่ของเฟรชเชอร์และแอนเดอร์สันที่ต้องช่วยกันทำลายเกมส์ของโมดริชและฟานเดอฟาร์ท งานนี้มีอัดกันไฟแลบแน่ ดีไม่ดีรูนี่ห์ต้องลงมาช่วยไล่บอลแดนกลางด้วยครับ (ของชอบพี่เค้าล่ะ) ส่วนแดนหน้าคงต้องฝากความหวังไว้กับเบอบาตอฟ แม้ว่าเบอบาจะเล่นได้ไม่ดีนักในการมาเยือนครั้งก่อนแต่ตอนนี้กำลังองค์ลงกองหลังสเปอร์สมีอ้วกครับ โดยภาพรวมผมยังมั่นใจว่าแมนยูยังมีลูกเก๋ากว่าสเปอร์สอยู่โขน่าจะเบียดชนะไปได้ เดี๋ยวจะได้เห็นฟอร์มก๊องแก๊งของแมนยูอีกครั้งแล้วสเปอร์สจะหนาว 555

วันพฤหัสบดีที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2554

อยากเป็นเทพต้องมี 3

อย่างงกับ topic ที่ผมจั่วหัวไว้ครับเดี๋ยวมีเฉลย เมื่อคืนผมดูบาเซโลน่าถล่มเบติส 5-0 ในทีมบาเซโลน่าชุดเมื่อคืนมีคนที่ได้รางวัลบัลลงดอร์คนล่าสุดอย่างเมซซี่และรองทั้งสองอย่างซาบี้เฮอนันเดสและอันเดรีสอินเนสต้า เห็นบาซ่าเล่นแล้วไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหลายคนเรียกบาซ่าชุดนี้ว่า "ทีมต่างดาว" เกมส์รุกมาทุกทิศทุกทางจากการทำเกมส์รุกของ 3 ประสานนรกแตก คิดว่าหลายๆคนคงเข้าใจแล้วครับว่า "อยากเป็นเทพต้องมี 3" ของผมหมายถึงอะไร คือทีมที่จะเป็นยอดทีมได้ต้องมีนักเตะที่อยู่ในช่วง peak 3 คนครับถ้าวันไหน peak ทั้ง 3 คนพร้อมกันคู่แข่งก็ลงโลง ถ้าวันไหนคนใดคนนึงฟอร์มตกก็ยังเหลืออีก 2 หรือถ้าฟอร์มร่วงไป 2 ก็ยังเหลืออีก 1 คงยากที่จะฟอร์มตกพร้อมกันทีเดียวสามหน่อพร้อมกัน

แมนยูก็เคยมีช่วงนั้นเหมือนกันคือปี 1999 ที่ได้เป็น tripple champs ปีนั้นแมนยูมีมากกว่า  3 อีกครับทั้งไรอันกิ๊ก เดวิดเบ๊คแฮม รอยคีน พอลสโคลส์ ดไวยอร์ค แอนดี้โคล ปีนั้น 6 คนนี้อยู่ในช่วง peak กันทุกคนมากบ้างน้อยบ้างสลับกันไป แถมยังมีพวกที่พร้อมจะ peak เมื่อมีโอกาสลงสนามอย่างโซชาและเชอริ่งแฮม จึงไม่น่าแปลกใจที่ฤดูกาลนั้นแมนยูมีเกมส์รุกที่ยอดเยี่ยมมากและเป็นทีมที่แพ้ยากมากด้วย ขอเป็นเทพแค่ 3 แต่แมนยูชุดนั้นมีถึง 6+2 จึงไม่แน่แปลกใจสำหรับ tripple champs แต่หลังจากนั้นเทพๆชุดนั้นก็เริ่มลงจากสูงสุดคืนสู่สามัญ แต่ละซีซั่นจะมีคนท๊อปฟอร์มแค่คนสองคน


จนกระทั่ง 3 ฤดูกาลล่าสุดก็มีนักเตะแมนยูที่องค์ลงฤดูกาลละคนเท่านั้น ไล่มาตั้งแต่โรนัลโด้ที่ยิงไป 42 ประตู (2008) รูนี่ห์ 34 ประตู (2009) ล่าสุดก็เบอบาตอฟที่อยู่ในช่วงฟอร์มมหาเทพในฤดูกาลนี้โดยคาดว่าจะยิงไม่ต่ำกว่า 25 - 30 ประตูตอนจบฤดูกาล (ตอนนี้พี่แกสอยไปแล้ว 15 ประตู) ลองคิดกันเล่นๆนะครับถ้า 3 คนนี้ peak พร้อมกันในซีซั่นเดียวกันล่ะก็บาเซโลน่าก็บาเซโลน่าเหอะ ตอนนี้โรนัลโด้ไม่อยู่แล้วก็หวังว่ารูนี่ห์จะกลับมา peak อีกครั้ง ไม่มีเทพสามขอสองก็ยังดีเนอะ 555

วันพุธที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2554

เมื่อไหร่ผีจะขยับบ้างน้อ

ตอนนี้ตลาดนักเตะเปิดรอบ 2 แล้วหลายทีมเริ่มขยับตัวเพื่อเสริมขุมกำลัง อย่างแมนเชสเตอร์ซิตี้ก็คว้าตัวเอดินเซโก้กองหน้าชาวบอสเนียของโวลสบวกมาด้วยค่าตัว 27 ล้านปอนด์ ผมเริ่มสงสัยว่าทำไมนักเตะหลายคนถึงอยากมาอยู่แมนซิตี้ทั้งที่ทีมไม่ได้มีชื่ออะไรมากนัก สุดท้ายก็บางอ้อ...เงินตัวเดียวเท่านั้นครับ ข่าวแว่วมาว่าเซโก้ได้ค่าเหนื่อยกว่า 120,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ รวมถึงนักเตะอย่างเตเบซ มิลเนอร์ วิเอร่า ยิ่งยาย่าตูเร่นี่ได้ถึงระดับ 200,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ เฮ้อ...นักเตะเดี๋ยวนี้ค่าเหนื่อยโหดกว่าประธานาธิปดีหรือนายกอีก มาต่อเรื่องเซโก้ดีกว่า ผมไม่รู้หรอกว่าเก่งขนาดไหนแต่เค้า (ใครกันคือเค้า) ว่ากันว่าคนนี้แหละแวนบาสเท่นคนที่ 2 เห็นบอกยังงี้มาเป็นสิบแล้ว 555


ที่จริงแมนยูก็เคยสนใจเซโก้นะครับ ผมคิดว่าแค่ 27 ล้านปอนด์ไม่ใช่ปัญหาสำหรับแมนยูเลยแต่แมนยูติดปัญหาที่ค่าเหนื่อยครับ ถ้าให้เซโก้ 120,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์พวกนักเตะคนอื่นๆในทีมคงมีโวยและคงทำให้ทีมป่วนเป็นแน่ เห็นบอกว่ามีกลุ่มลงทุนจากตะวันออกกลางอยาก take over แมนยูจากเกลเซอร์ นี่ข่าวเงียบไปเลยสงสัยแมนยูต้องอยู่อย่างพอเพียงและเพียงพอต่อไป ...เป็นแฟนแมนยูต้องอดทนครับ


นอกจากแมนซิตี้แล้วสเปอร์สก็มีข่าวว่าอยากได้ตัวหลุยซัวเรสกองหน้าทีมชาติอุรุกวัยจากอาแจ็คอัมเตอดัม โอ้กองหน้าที่มีอยู่ก็แทบจะเดินชนกันอยู่แล้วไม่ว่าจะเป็นเดโฟ เคร้า พาฟลูเชนโก้ คีน จะสะสมกองหน้าทำไมไม่เข้าใจครับ มันไม่ใช่สะสมแสตมป์เซเว่นแลกของนะครับ ใจจริงผมชอบซัวเรสมานานมากผมว่าเขาคล้ายเตเบซนะแต่มีการยิงประตูที่เฉียบคมกว่ามาก ป๋าก็เคยสนใจแต่เงียบไปซะงั้นยังไงเปิดตลาดคราวนี้จัดซัวเรสให้หน่อยได้มั๊ยครับ ทีเบเบ้ฝีเท้าระดับทีม อบต. ยังหน้ามืดซื้อมาได้ตั้ง 7 ล้านปอนด์ขณะที่ของดีอย่างฟานเดอฟาทที่ย้ายมาสเปอร์สราคาแค่ 8 ล้านปอนด์ บางทีก็แอบงงป๋าเฟอร์กี้และทีมแมวมองว่าคิดอะไรกันอยู่เหมือนกัน เฮ้ออย่างทีบอกริจะเป็นแฟนผีต้องทนอด....และอดทน

วันอังคารที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2554

แมนยูในเอฟเอคัพรอบ 4

ผลจับฉลากออกมาแล้วครับโดยแมนยูต้องออกไปเยือนเซาแธมตันที่เดอะเดลล์ ถ้าใครที่เป็นแฟนแมนยูมากว่า 10 ปีจะรู้เลยครับว่าสนามเดอะเดลล์นี่มันเดอะเฮลล์ (ที่แปลว่านรก) สำหรับแมนยูจริงๆ สมัยเมื่อเซาแธมตันยังเล่นในพรีเมียร์ลีกแมนยูไปเยือนสนามนี้ทีไรได้ช้ำเลือดช้ำหนองออกมาทุกที ทำไมหรือครับ? ด้วยความที่สนามเดอะเดลล์เป็นสนามที่ไม่ใหญ่มาก อัฒจรรย์ติดขอบสนามชนิดที่ห่างกันแค่ฟุตแฟนบอลก็อินกับเกมส์มากมันเลยกดดันนักเตะทีมเยือนอย่างช่วยไม่ได้

จำได้ว่าฤดูกาล 94-95 ผมไปเที่ยวเชียงใหม่ในช่วงปีใหม่กับครอบครัวแมนยูบุกไปเยือนเซาแธมตันวันนั้นพอดีที่บ้านญาติไม่มี IBC (ตอนนี้คือ UBC นะครับ) เลยต้องออกไปดูบอลที่ร้านอาหารในเมือง วันนั้นแมนยูใส่ชุดทีมเยือนสีเทาที่ผมคิดว่าแมนยูไม่ถูกโฉลกกับสีนี้เลยใส่ทีไรไม่ค่อยชนะ และวันนั้นแมนยูต้องเจอกับ "พ่อมดนักบุญ" แมตธิวเลอทิสสิเอ กองกลางจอมคลาสิกทีมชาติอังกฤษในยุคนั้นว่าไปแล้วลีลาของแมตธิวเลอทิสสิเอคล้ายกับเบอบาตอฟของแมนยูครับคือครองบอลเหนียวแน่นทักษะบอลสูงแต่ที่เลอทิสสิเอไม่รุ่งกับทีมชาติเพราะเขาขี้เกียจครับคือไม่วิ่งไล่บอล พี่แกจะเล่นเฉพาะตอนที่บอลมาถึงตัวเท่านั้นแต่เวลาได้บอลแต่ละครั้งหาคนหยุดยากครับ วันนั้นเลอทิสสิเอเล่นดีมากครึ่งแรกทั้งยิงทั้งจ่ายนำแมนยูไปหายห่วง 3-0


ครึ่งหลังมาแมนยูมาแบบแหวกแนวมากครับคือเปลี่ยนเสื้อชุดทีมเยือนจากสีเทาไปเป็นลายน้ำเงินขาวโดยอ้างว่าสีเทามันดูกลมกลืนกับกองเชียร์จนทำให้การครองบอลผิดพลาดในครึ่งแรก.....ว่าไปนั่นผมว่าตั้งแต่ดูบอลมายังไม่เคยเห็นทีมไหนทำเหมือนแมนยูวันนั้นเลย ตอนแรกนึกว่าทางร้านเปลี่ยนช่อง 555 แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อครับแมนยูเล่นได้ดีขึ้นและยิงคืนมาได้ 1 ประตูจากกองหน้าดาวรุ่งตอนนั้นนามว่า
"พอล สโคลส์" แต่ก็ได้แค่นั้นจบเกมส์แมนยูแพ้ไป 3-1 และเป็นการรูดม่านปิดฉากชุดเยือนสีเทาไว้ที่เดอะเดลล์


ผ่านไปกว่า 10 ปีผมว่าการไปเยือนที่เดอะเดลล์ครั้งนี้แมนยูคงไม่แพ้กลับมานะครับ ผมเชื่อในทีมชุดนี้ครับว่าจะชนะได้แต่ต้องชุดใหญ่นะครับ ถ้าชุดลูกผสมมีสิทธิชอกช้ำกลับมาแล้วจะหาว่าไม่เตือนนะครับป๋า

วันจันทร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2554

ชำแหละฟอร์มนักเตะแมนยู

แมนยูชนะลิเวอร์พูลไปได้แบบมีเสียว 1-0 แม้ว่าจะไม่ใช่นัดที่เล่นดีที่สุดแต่ก็ไม่ได้เลวร้ายนัก ตามที่ผมคาดไว้เลยวันนี้แฟนลิเวอร์พูลออกมาบ่นเรื่องจุดโทษและการที่ฮาเวิร์ดเวปป์ให้ใบแดงแก่เจอร์ราด ผมว่ากรรมการเข้มนะครับนัดนี้แต่จริงๆแล้วเวปป์ตัดสินได้ดีนะ อย่างไรก็ตามผมจะลองประเมินและให้คะแนนแบบตัวต่อตัวเลยครับ


1. โทมัสคุซแช็ค: มีโอกาสลงเล่นฟานเดอซาร์มา 3 นัดคิดแล้ว นัดนี้ไม่มีงานหนักมากมายแต่ป้องกันลูกยิงจะๆของแม็กซี่ได้อย่างยอดเยี่ยม รวมไปถึงการบินไปปัดลูกฟรีคิกของออเรริโอได้อย่างสวยงาม นับว่าคุซแช็คไว้ใจได้ครับไม่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นในนัดนี้ เอาไปเลย 7.5/10

2. ราฟาเอล: ตอนแรกแอบเสียวว่าเจ้าหนูราฟาเอลจะรับแรงกดดันในเกมส์ใหญ่ขนาดนี้ไหวเหรอ แต่ผิดคาดครับราฟาเอลเล่นได้เด่นมากทั้งรุกและรับ เป็นกองหลังที่มีทั้งเทคนิคและความเร็วถ้าเก็บประสบการณ์อีกนิดตำแหน่งแบ็คขวาตัวจริงเอาไปเลย นัดนี้ราฟาเอลมีโอกาสทำเกมส์บุกอยู่หลายครั้งแต่เปิดบอลยังไม่ค่อยแม่น แต่ที่ต้องระวังคืออย่าประมาทมากไปมีจังหวะนึงที่ราฟาเอลพยายามจะล็อคบอลตรงเส้นหลังแต่โดนแย่งไปได้ดีที่ไม่เสียประตู แต่โดยรวมวันนี้ราฟาเอลเล่นดีมากครับเด่นสุดในบรรดาแบ็คโฟร์ จัดไป 8/10

3. เฟอร์ดินาน: วันนี้ต้องเล่นโดยไม่มีคู่หูอย่างวิดิชแต่เฟอร์ดินานก็แสดงให้เห็นว่าเค้าก็เป็นหัวใจแนวรับที่ไว้ใจได้ ประกบซะตอร์เรสทำอะไรไม่ได้อีกทั้งมีลูกสกัดกลางอากาศที่แข็งแกร่ง เอาไป 7.5/10

4. อีแวนส์: เรื้อสนามมานานแต่พอมีโอกาสก็ทำผลงานได้ดีทีเดียว มีทั้งลูกสกัดที่ดุดันและลูกกลางอากาศที่ไว้ใจได้ แถมเกือบทำประตูได้ด้วย เอาไป 7/10

5.เอฟร่า: ครึ่งแรกผมแปลกใจมากที่ไม่เห็นเอฟร่าเติมเกมส์รุกเลยทั้งๆที่แบ็คขวาของลิเวอร์พูลเป็นดาวรุ่งอย่างเคนลี่ มิหนำซ้ำเอฟร่ายังหลุดตำแหน่งในเกมส์รับอยู่บ่อยครั้งจนโดนเจาะอยู่เนืองๆ ครึ่งแรกเอฟร่ากลายเป็นบ่อเลยครับ แต่ครึ่งหลังเอฟร่าคนเดิมกลับมาแว้วเล่นเกมส์บุกสวยๆกับกิ๊กบ่อยครั้ง และมีลูกโยนที่น่ากลัวมากขึ้น หักกลบลบหนี้แล้วเอาไป 7/10

6. นานี่: มีส่วนร่วมในเกมส์รุกแมนยูตลอดมีทั้งการหลอกล่อคู่ต่อสู้สวยๆ หลายครั้ง แต่มีบางครั้งที่ฝืนมากเกินไปทำให้ทีมเสียจังหวะ แต่นานี่ช่วยกับราฟาเอลทำเกมส์บุกทางฝั่งขวาได้อย่างต่อเนื่อง นานี่มีลูกยิงไกลที่ดีที่สามารถยิงได้ทั้งสองเท้า แต่การเปิดบอลยังไม่แม่นเท่าที่ควร จัดไป 7.5/10

7. คาร์ริก: บอกตรงๆว่ารู้สึกแปลกที่เห็นคาร์ริกเล่นพร้อมกับเฟชเชอร์เพราะว่าผมคิดว่าแอนเดอร์สันน่าจะลงแทนคาร์ริกมากกว่า แต่อย่างไรก็ตามคาร์ริกก็เป็นตัวเชื่อมเกมส์ที่ใช้ได้แต่ลูกยิงไกลดูเหมือนว่าต้องไปจูนเครื่องกันอีกหน่อยถ้าจะดี เอาไป 7/10

8. เฟชเชอร์: ผมว่าตอนนี้แมนยูขาดเฟชเชอร์ไม่ได้แล้ว เค้าคือร่างอวตารของรอยคีนดีๆนี่เอง ต่างกันที่เฟชเชอร์ไม่ดุดันเท่าคีน แต่ทุกครั้งที่แดนกลางมีเฟชเชอร์ผมมั้นใจว่ากองกลางฝั่งตรงข้ามเล่นไม่ได้ง่ายๆแน่นอน แม้ว่าเฟชเชอร์จะไม่มีลีลาการเล่นที่สวยงามแต่จะบอกว่าเค้าเป็นคนที่ปิดทองหลังพระก็ไม่ปาน นัดนี้เฟชเชอร์ตัดเกมส์ได้บ่อยครั้งตัดไปตัดมาโดนใบเหลืองซ้า 555 และมีอีกหลายครั้งที่เฟชเชอร์เปิดบอลสวยๆให้เพื่อนรวมถึงการเปิดให้เบอบาตอฟและนำมาซึ่งจุดโทษ แบบนี้ไม่ได้แล้วเอาไป 8/10



9. กิ๊ก: สาบานนะครับว่าอายุ 37 นัดนี้กิ๊กเล่นได้ดีมากทั้งจ่ายบอล ครองบอล เลี้ยงกระชากไม่เหมือนนักเตะอายุหลักสาม (เกือบสี่แล้ว) เลย ผมชอบการเปิดบอลของกิ๊กมากได้ลุ้นตลอดไม่ว่าจะเป็นการเปิดจากด้านข้างหรือเป็นลูกเตะมุม เปิดแต่ละทีเพื่อนเล่นง่ายและทีมได้เปรียบตลอด อีกทั้งลูกยิงจุดโทษเฉียบขาดมากเล่นเอากองหน้าบางคนอายเลย กิ๊กมีทั้งบู๊และบุ๋นในนัดนี้ครับสามารถเร่งสปีดของเกมส์และชะลอเกมส์ได้อย่างสมดุลย์มาก ผมให้เป็น man of the match ด้วยคะแนน 9/10

10. ชิชาริโต้:  ตอนนี้ผมว่าชิชาริโต้เริ่มปรับตัวเข้ากับเกมส์เร็วของแมนยูได้แล้ว นัดนี้ชิชาริโต้ลงมาเล่นแทนรูนี่ห์ที่เจ็บจากนัดก่อนหน้า ผมว่าเด็กคนนี้มีวิญญาณเพชรฆาตคล้ายกับโซวชาแต่ต่างกันที่รูปร่าง นัดนี้ชิชาริโต้ลงมาเชื่อมเกมส์อยู่บ่อยครั้งและมีโอกาสโหม่งทำประตูแต่หลุดกรอบไปนิดเดียว ให้ไป 7.5/10


11.เบอบาตอฟ: เค้าเป็นศูนย์กลางเกมส์รุกของแมนยูอย่างเต็มตัว เบอบาตอฟมีการครองบอลที่เหนียวแน่นและมีทักษะที่เยี่ยมยอด แมนยูได้จุกโทษจากจังหวะกระชากของเบอบาตอฟและโดนแอกเกอร์ทำฟาล์ว นัดนี้เบอบาตอฟทำเกมส์บุกได้อย่างต่อเนื่องกองหลังแค่ 2 คนเบอบาตอฟกินนิ่มครับอย่างน้อยต้องมีสามถึงจะเอาอยู่ นอกจากนี้เบอบายังมีโอกาสทำประตูอีก 3-4 ครั้งแต่ติดเรน่า (ที่ผีเข้า) ป้องกันได้หมด ให้ไป 8.5/10 ครับ

สำรอง (ไม่ขอให้คะแนนครับ)
แอนเดอร์สัน: ลงมาแทนเฟชเชอร์ที่โดนใบเหลืองไปก่อนหน้า แต่น้องแอนลงมานาทีกว่าๆก็เสียบอลและได้ใบเหลืองไปตามระเบียบ ผลงานโดยรวมถือว่าใช้ได้ครับผ่านบอลสวยๆได้ 2-3 ครั้ง เอ...ช่วงนี้ดูอวบๆนะสงสัยวัยกำลังโต

โอเว่น: ลงมาแทนชิชาริโต้ ช่วงแรกหายๆไปเหมือนกันแต่ก็มีจังหวะกระชากสวยๆเข้าเขตโทษครั้งนึง นี่ถ้าตอนรุ่งๆล่ะก็ลูกนี้มีหายแน่นอนครับแต่ตอนนี้แผ่วไปมากเล่นได้แค่นี้ก็ใช้ได้ครับ

สมอลลิ่ง:  ลงมาแทนอีแวนส์ ผมว่าสมอลลิ่งต้องเกี่ยวเกี่ยวประสบการณ์จากรุ่นพี่อีกสักระยะกว่าจะเป็นตัวหลักของทีมได้ มีหลายนัดรวมทั้งนัดนี้ด้วยที่สมอลลิ่งหลุดจากตำแหน่งจนทำให้ฝ่ายตรงข้ามมีโอกาสยิงประตูได้ แต่โชคดีที่ไม่เสียประตูไม่เป็นไรไว้เอาใหม่ละกัน

วันอาทิตย์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2554

แมนยูเชือดหวิว 1 - 0

และแล้วเอฟเอคัพระหว่างแมนยูปะทะลิเวอร์พูลก็จบลงด้วยชัยชนะของแมนยู 1-0 แม้ว่านัดนี้จะไม่ใช่นัดที่ยิงกันกระจายแต่ก็นับว่าแมตย์นี้มันเป็น drama & triller อย่างแท้จริงมีทั้งจุดโทษทั้งใบแดง มีเสียวตลอดเกมส์สกอร์ 1-0 นี่มันบีบหัวใจทั้งสองทีมนะครับ นัดนี้มันส์ตั้งแต่ผู้จัดการทีมคือทั้งเฟอร์กี้และเดลกลิชเป็นคนสก็อตทั้งคู่ แต่ป๋าเคยเป็นนักเตะเรนเจอร์ส่วนเดลกลิชเคยเป็นนักเตะเซลติก (แต่คนละยุคกัน) โอ้วนี่มันกลาสโกล derby นอกสนามชัดๆ แมนยูจัดทัพค่อนข้างลงตัว ส่วนลิเวอร์พูลนำทีมด้วยคู่ดูโอเจอร์ราดกับตอร์เรส อ้อนัดนี้ต้องใช้ผู้ตัดสินมือทองอย่างโฮเวิร์ดเวปป์ซึ่งพี่แกตัดสินได้ขัดใจกองเชียร์อยู่บ้างแต่ตรงตามกฎเป๊ะๆ ไม่ว่าจะเป็นจุดโทษใบเหลืองใบแดง อาจทำให้เกมส์ชะงักลงบ้างแต่ถ้าดูอย่างเป็นกลางเวปป์ตัดสินได้ขาวสะอาดอย่างไม่ต้องสงสัย


ครึ่งแรก
เปิดเกมส์มาได้นาทีกว่าๆแอกเกอร์เข้าสกัดเบอบาตอฟจนหัวทิ่มในเขตโทษ และเวปป์ก็ให้จุดโทษโดยไม่ลังเลเล่นเอาผมงงไปเลยว่ากล้าให้เร็วขนาดนี้เชียวหรือ? แต่พอดูจากภาพช้าเห็นได้ชัดว่าแอกกเกอร์เตะโดนเข่าเบอบาตอฟจริงๆ เวปป์นี่ตาไวจริงๆครับ กิ๊กรับหน้าที่สังหารผมเดาเลยว่ากิ๊กต้องยิงไปมุมขวาของประตูเพราะธรรมชาติของคนถนัดซ้ายจะยิงมุมนี้โดยไม่ฝืนธรรมชาติ ป๊าดเรน่าดันเดาทางออกแต่ลูกยิงของกิ๊กพุ่งเข้าหน้าต่างยังกะติดไอพ่น แมนยูนำ 1-0 เฟชเชอร์เข้าตัดเกมส์เดิร์กเค้าที่กำลังจะหลุดจากกลางสนาม เวปป์ไม่รีรอให้ใบเหลืองแรกกับนักเตะแมนยูตั้งแต่นาทีที่ 8 หลังจากนั้นแมนยูก็ครองเกมส์ได้ซะส่วนมากกว่าลิเวอร์พูลจะตั้งตัวได้ก็ราวนาทีที่ 20 เกมส์ส่วนใหญ่จะอยู่กลางสนามแต่แล้วเหตุการณ์ที่ drama ก็เกิดขึ้นในนาทีที่ 32 เจอร์ราดพุ่งเปิดปุ่มเข้าแย่งบอลกับคาร์ริค เวปป์เรียกเจอร์ราดเข้าไปผมก็คิดว่าเตือนแต่พี่แกให้ใบแดง เอ้าจบครับไม่มีเจอร์ราดลิเวอร์พูลก็ขาดใจ หลังจากนั้นแมนยูก็สนุกอยู่ข้างเดียวและเกือบนำ 2-0 ตอนท้ายครึ่งแรกแต่อีแวนส์โหม่งประตูชนเสาดังโครม

ครึ่งหลัง
เปิดเกมส์มา 5 นาทีแมนยูบุกกระหน่ำซัมเมอร์เซลล์มากเล่นเอาลิเวอร์พูลโงหัวไม่ขึ้น เรน่าเซฟติดๆกัน 4-5 ครั้งแต่เหมือนทุกนัดครับแมนยูบุกแหลกแต่ยิงไม่ได้ มิหนำซ้ำเกือบโดนตีเสมอโดยโอเรโอ้ (ออเรริโอ) ยิงฟรีคิกแต่คุชแช็คปัดออกไปได้แบบมีเสียว แมนยูส่งโอเว่นลงมาแทนชิชาริโต้นาทีที่ 76 ตอนแรกคงงงว่าโอเว่นอยู่ทีมไหนกันเนี่ย 555 แต่ลงมาก็เงียบไปพักใหญ่ แมนยูก็ปิดเกมส์โดยเคาะบอลไปมาจนจบเกมส์และผ่านเข้ารอบ 4 ต่อไป สงสารเดลกลิชเหมือนกันนะครับนัดแรกก็เจอของหนักซะแล้วจะรอดมั๊ยเนี่ย เอาครับให้กำลังใจกันต่อไป

ท่าดีใจของใครเจ๋งสุด

คลายเครียดก่อนเกมส์ red fight คืนนี้ครับ....นักฟุตบอลเวลายิงประตูได้ต้องดีใจเป็นธรรมดาแต่ทุกคนต้องมีท่าประทับใจกันบ้างล่ะ แล้วท่าดีใจของนักเตะแมนยูคนไหนที่ประทับใจคุณ? นี่แค่ขำๆครับตามความคิดส่วนตัวของผมเอง

อันดับ 4: นานี่ปีกอาบังชาวโปรตุเกส ท่าดีใจประจำตัวคือการตีลังกากลับหลังใส่เกลียวไม่ต่ำกว่า 7 รอบ นี่ถ้าไม่เอาดีทางเตะบอลคงเป็นนักยิมนาสติกได้ไม่ยาก ผมล่ะอดแอบเสียวไม่ได้ถ้าลงผิดจังหวะหัวทิ่มขึ้นมางานงอกล่ะครับเจ็บน่ะไม่เท่าไหร่แต่อายเนี่ยสิ ป๋าเองก็ไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่กับท่าดีใจของนานี่แต่เค้าแคร์ซะที่ไหนยิงได้ทีไรตีลังกาประจำ ไม่เจ็บป๋าคงขี้เกียจจะพูดแต่เจ็บขึ้นมาป๋ากระทืบซ้ำชัวร์

อันดับ 3: แอนเดอร์สันกองกลางหน้าตื่นตูมชาวบราซิล ผมชอบหน้าตาน้องแอนนะครับดูมันตื่นตูมลนๆชอบกล แอนเดอร์สันย้ายมาจากปอร์โต้ด้วยค่าตัว 17 ล้านปอนด์ในปี 2007 แต่ตอนนี้ยิงไปไม่ถึง 5 ลูกเลย ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประตูละ 3.4 ล้านปอนด์ เวลาน้องแกยิงได้เลยดีใจเป็นพิเศษรู้ๆกันอยู่ครับแอนเดอร์สันยิงได้ก็เต้นลีลาแซมบ้าแบบจัดเต็ม แบบว่านานๆยิงทีแต่คนที่อยากไปเต้นด้วยน่าจะเป็นเฟอร์กี้ ป๋าแกคงอยากไปแดนซ์เป็นเพื่อนแล้วบอกว่าถ้ายิงเยอะๆเดี๋ยวป๋าปิดผับเลี้ยงดีมะ 555

อันดับ 2: ลีชาร์ปกองกลางหน้าตาดีชาวอังกฤษ คนนี้ต้องย้อนไปนานหน่อยครับลีชาร์ปเล่นกับแมนยูในช่วงปีประมาณ 1992 - 1996 ชาร์ปจัดว่าเป็นปีกซ้ายยอดเยี่ยมคนนึงของวงการลูกหนังอังกฤษเลยทีเดียว แต่ดันเกิดผิดยุคไปนิด ตอนที่ชาร์ปกำลังดังไรอันกิ๊กก็ได้ถือกำเนิดมาพอดี กิ๊กมาทีหลังแต่แซงทางโค้งชาร์ปแบบไม่เห็นฝุ่น ท่าดีใจของชาร์ปที่แฟนแมนยูจำได้คือตอนที่พี่แกยิงประตูได้แล้วไปทำท่าถือไมโครโฟนแบบร็อคแอนด์โรลที่มุมธง ฮามากครับแต่ฮาแบบฝืดๆหลังจากนั้นชาร์ปก็ตกอยู่ใต้ร่มเงาของกิ๊กและย้ายทีมไปเล่นในอิตาลีช่วงสั้นๆก่อนมาอยู่กับลีดส์ยูไนเต็ดในเวลาต่อมา


อันดับ 1: เอริคคันโตน่ากับท่าไต่เสาชนิดที่โคโยตี้ยังหนาว นัดนั้นเกิดขึ้นในตอนที่แมนยูเปิดบ้านพบกับลิเวอร์พูลปี 1995-1996 นัดนั้นเป็น red fight แต่ทุกคนกลับจับจ้องกับการกลับมาของเอริคคันโตน่า ปีนั้นคันโตน่าโชว์กังฟูคิกใส่แฟนบอลวิมเบอดันจนถูกแบนไปหลายเดือน เท่ากับว่าคันโตน่าลงสนามครั้งแรกในรอบหลายเดือน ทุกๆคนแอบคิดว่าฟอร์มของคันโตน่าจะยังเป็นเทพเหมือนก่อนโดนแบนหรือไม่? แต่การกลับมาครั้งนั้นเค้าไม่ใช่คันโตน่าคนเดิมอีกต่อไปฟอร์มเทพที่เคยมีแปรเปลี่ยนเป็นมหาเทพ คันโตน่าเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของแมนยูในตอนนั้น นัดนั้นคันโตน่ายิง 1 จ่าย 1 โดยคันโตน่ายิงจุดโทษตีเสมอ 2-2 ให้กับทีม พอยิงได้ปุ๊บพี่แกก็วิ่งไปหลังประตูแล้วกระโดดผึงขึ้นเสาที่อยู่หลังประตู คันโตน่าไต่เสาได้ว่องไวยังกะลิง ผมชอบมากดูกี่ครั้งก็ฮาทุกที ผมเลยยกให้ท่านี้เป็นสุดยอดท่าดีใจที่ผมประทับใจที่สุดครับ

วันเสาร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2554

แมนยู - ลิเวอร์พูล เอฟเอคัพในความทรงจำ

วันนี้แมนยูจะเจอลิเวอร์พูลในศึกเอฟเอคัพค่ำนี้คงซัดกันดุเดือดสมกับเป็น red fight ผมพลันนึกถึงเอฟเอคัพปี 1996 นัดชิงที่เวมบรีล์ นัดนั้นเป็นนัดที่ยอดเยี่ยมมากแมนยูเจอคู่ปรับตลอดกาลอย่างลิเวอร์พูล ฤดูกาลนั้นถ้าไม่พูดถึงกังฟูคิกชองคันโตน่าคงไม่ได้พี่แกเล่นไปกระโดดถีบแฟนบอลวิมเบอดันจนเป็นข่าวครึกโครมไปทั่วโลก สุดท้ายก็โดนแบนไปหลายเดือน หลังจากคันโตน่าพ้นโทษแบนก็โชว์ฟอร์มมหาเทพนำแมนยูกลับมาคว้าแชมป์ลีกได้อีกครั้ง แต่ผลงานโดดเด่นสุดคงเป็นการทำประตูชัยในนัดชิงชนะเลิศเอฟเอคัพปี 1996 เดวิดเจมส์ปัดบอลออกมาคันโตน่าจับบอลอย่างนิ่มนวลแล้วสวนตูมเดียวแหวกผู้เล่นลิเวอร์พูลเข้าไป ผมจำได้ติดตาเลยนาทีที่บอลเข้าไปสัมผัสก้นตาข่ายผมและผองเพื่อนตะโกนเฮโลซะบ้านแทบแตก ประทับใจจอร์จมากมาย ปีนั้นแมนยูเป็น double champ ด้วยครับ


อีกนัดที่ประทับใจคือเอฟเอคัพรอบ 4 ปี 1999 เจอลิเวอร์พูลอีกแล้วครับ แมนยูเล่นในบ้านแต่เสียประตูตั้งแต่ไก่โห่จากไมเคิลโอเว่น ตอนนั้นโอเว่นฟอร์มนรกแตกมากครับตัวเล็กแต่ทะลึ่งทำประตูได้ด้วยลูกโหม่ง แมนยูเกือบจะแพ้อยู๋แล้วแต่โชคดีที่แมนยูมีพระเอกขี่ม้าขาวอย่างโอเล่กุนนาโซชาที่ลงมาเป็นซุปเปอซับอย่างแท้จริง ลงมาก็ทำให้เกมส์ดีขึ้น ดไวยอร์คตีเสมอนาทีที่ 88 และโซชายิงประตูชัยช่วงทดเวลาเจ็บ สะใจมากครับ นัดนั้นทำให้เห็นว่าฟอร์มแชมป์มันเป็นอย่างนี้นี่เอง หลังจากชัยชนะนัดนั้นแมนยูก็กรุยทางไปสู่แชมป์เอฟเอคัพและยิ่งกว่านั้นคือฤดูกาลนั้นแมนยูเป็น Tripple Champ ด้วยครับ


หวังว่าคืนนี้คงเป็นแมตย์ที่ประทับใจอีกนัดนะครับป๋า ขอจัดเต็มเน้นๆเลยนะครับ

พรีวิวแมนยู - ลิเวอร์พูล

แมนยูจะเปิดโรงละครแห่งความฝัน Theater of Dream ต้อนรับหงส์แดงลิเวอร์พูลในศึกเอฟเอคัพรอบ 3 วันอาทิตย์นี้ ปีนี้เจอกันเร็วกว่าที่คาดคนประกบคู่นี่ก็มือดีจริงๆ นัดนี้มันก็คงเป็น red fight ขนาดย่อมๆครับ ข่าวจากวงในผีแว่วมาว่าเฟอร์กี้จะส่งชุดใหญ่ลงเล่นเว้นแต่รูนี่ห์ เฟอร์ดินานที่มีอาการเจ็บ ค่อยยังชั่วครับถ้าส่งชุดเด็กลงมีหวังแพ้แหงแต่ละคนทั้งโอแบตอง เบเบ้ พึ่งไม่ได้เลยจริงๆ ทางด้านลิเวอร์พูลเพิ่งปลดรอยฮอจสันและตั้งเคนนี่ดัลกลิชคุุมทีมจนจบฤดูกาลโดยจะทำหน้าที่ในนัดที่จะมาเยือนแมนยูเลย โอ้วงานนี้แมนยูต้องระวังเลยครับ กำลังใจของทีมลิเวอร์พูลคงดีขึ้นเป็นกองและฝีมือการทำทีมดัลกลิชก็ไม่ธรรมดาเลย ตอนคุมแบล็คเบิร์นก็เคยแย่งแชมป์จากแมนยูไปได้ แต่เสียใจปีนี้แมนยูได้แชมป์สมัยที่ 19 ชัวร์หรืออย่างน้อยคู่แข่งในการแย่งแชมป์คงไม่ใช่ลิเวอร์พูลแน่นอน


 ผมว่าลิเวอร์พูลคงมาเต็มแน่นัดนี้ แต่ผมยังเชื่อมั่นว่าชั่วโมงนี้แมนยูข่มมิดครับ ขออย่างเดียวว่าขอให้ป๋าจัดเต็มเหมือนกันอย่าทะลึ่งส่งชุดลูกผสมลงสู้เป็นพอ ที่สำคัญอย่าส่งแกรี่เนวิลล์ลงเด็ดขาดโดนเจาะพรุนและมีโอกาสได้ใบแดงสูง ผมดูเนวิลล์ลงเล่นฤดูกาลนี้บอกได้คำเดียวว่าสมควรเลิกเล่นได้แล้วครับ โดยธรรมชาติเนวิลล์เป็นคนเข้าบอลหนักแต่ด้วยสังขารทำให้ความเร็วลดลงและบ่อยครั้งที่ไปสอยข้อเท้ากองหน้าฝั่งตรงข้ามมากกว่าที่ลูกบอล ไม่เหมาะกับเกมส์ที่หนักและเร็วอย่างเกมส์นี้แน่ นัดนี้ผมเชื่อว่าป๋าน่าจะส่งนานี่ที่กำลังฟอร์มดี เบอบาตอฟและชิชาริโต้ลงล่าประตูแน่นอน แอบคิดเล่นๆว่าถ้าป๋าส่งโอเว่นลงและยิงได้คงเท่ห์ไม่หยอกเลยทีเดียว ฟันธงแมนยูชนะครับ (หวังว่าธงผมคงไม่หักนะ) แต่คงไม่ถล่มทลาย พรุ่งนี้รู้กันครับ

วันศุกร์ที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2554

ทายาทป๋า....ทายาทอสูร

เห็นผลงานของคู่ปรับอย่างลิเวอร์พูลและรอยฮอดสันแล้วสงสาร จากทีมที่มีโอกาสลุ้นแชมป์แต่ตอนนี้ลิเวอร์พูลเป็นทีมที่พร้อมจะแพ้ให้กับทุกทีม (แต่อย่าทะลึ่งมาชนะแมนยูอาทิตย์นี้น้าา) แอบหันมามองแมนยูถ้าวันนึงไม่มีเฟอร์กี้แล้วใครจะมาคุมทัพแทน บอร์ดบริหารต้องเตรียมคิดแล้วครับที่จริงควรคิดตั้งแต่ 3 - 4 ปีก่อนตอนที่เฟอร์กี้ประกาศวางมือแต่โชคดีที่ป๋าเปลี่ยนใจไม่งั้นป่านนี้แมนยูอาจเป็นเหมือนลิเวอร์พูลก็เป็นได้



ตั้งแต่ผมดูแมนยูมาปีนี้ก็ปีที่ 17 เข้าให้แล้วตอนแรกๆผมเห็นตาลุงคนนึงคอยตะโกนโหวกเหวกอยู่ข้างสนามเป็นประจำแล้วสงสัยจริงๆว่าตาลุงคนนี้เป็นใคร ดูไปเรื่อยๆก็เห็นตาลุงคนนี้อยู่ร่ำไป อ้าวเขาเป็นผู้จัดการทีมแมนยูหรอเนี่ยขอโทษก๊าบ เฟอร์กี้มีบทบาทอย่างมากต่อความสำเร็จของแมนยูในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา ป๋าปั้นนักเตะดาวรุ่งมากมายหนึ่งในนั้นต้องมีไรอันกิ๊กรวมอยู่ด้วยแน่นอน จากวัยรุ่นผมหยิกหยอยสุดเท่ห์จนตอนนี้ผมร่วงเหมือนลูกนกเพิ่งคลอด ป๋าประคบประหงมกิ๊กอย่างดีถ้าไม่มีป๋าป่านนี้กิ๊กคงเป็นเด็กใจแตกที่หลงแสงสีและไม่โด่งดังคงกะพันอยู่จนทุกวันนี้ ป๋ายังมีความสามารถในการปราบพวกนักเตะศิลปินดูอย่างคันโตน่าสิครับติสตัวพ่อแต่ป๋าก็เอาอยู่ พูดตรงๆนะครับคนที่คุมแมนยูได้เก่งอย่างเดียวไม่พอต้องมีบารมีด้วย อย่างที่รู้กันว่าแมนยูเต็มไปด้วยซุป'ตาร์ถ้าเอาโค้ชไก่กาอาระเร่มาล่ะก็เละอย่างดียวครับ ที่สำคัญโค้ชคนนั้นต้องมีบารมีมากพอให้นักเตะยำเกรง ดูอย่างลิเวอร์พูลสิครับฮอจสันเก่งนะครับแต่ไม่มีบารมีมากพอที่จะคุมทีมใหญ่สุดท้ายคงไม่รอด



นี่ก็แว่วมาว่าบอร์ดทีมแมนยูอยากได้โค้ชคนต่อไปเป็นคนอังกฤษหรือสหราชอาณาจักรโดยเล็งไปที่เดวิดมอยส์ของเอฟเวอร์ตัน แต่ผมว่ามอยส์ไม่คู่ควรกับการเป็นแม่ทัพของแมนยู มอยส์เก่งครับแต่ไม่มีประสบการณ์มากพอในการคุมทีมใหญ่และทีมที่มีนักเตะระดับบิ๊กเนมเดินชนกันในทีม อย่าได้แคร์เลยครับว่าจะเป็นคนชาติอะไรขนาดทีมชาติอังกฤษที่ว่ากันว่า conservative ยังไม่เอาคนอังกฤษมาคุมทีมชาติเลย..... ผมว่าคนที่เหมาะจะเป็นทายาทอสูรของป๋าคือ the special one โชเซ่มูริณโญ่ ทำไมหรอครับ  มูริณโญ่เก่ง+มีบารมีมากพอและที่สำคัญมีประสบการณ์ในการคุมทีมใหญ่มาแล้วไม่ว่าจะเป็นเชลซี อินเตอร์มิลานและรีลมาดริด ผลงานของน้ามูในการคุมเชลซืนั้นก็เด่นมากครับ ถ้าผมจำไม่ผิดแมนยูไม่เคยชนะเชลซีในยุคมูริณโญ่ได้เลย เจ้าตัวก็มีใจอยากมาคุมแมนยู บอร์ดจ๋าจัดไปเลยฝากกระซิบมูริณโญ่ด้วยว่าก่อนลาจากมาดริดหนีบนักเตะเจ๋งๆมาด้วยซัก 2-3 หน่อก็ได้นะครับ

วันพฤหัสบดีที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2554

ตำแหน่งของรูนี่ห์

แมนยูคิดแล้วคิดอีกกับการหากองกลางชั้นเยี่ยมที่จะมาแทนพอลสโคลส์ที่โรยราเต็มที ตอนแรกว่าจะปั้นแอนเดอสันแต่ไปๆมาๆน้องแอนกลับเล่นเป็นตัวตัดเกมส์ได้ดีกว่า...อ้าวซะงั้น ครั้นจะไปซื้อโมดริชสเปอร์สคงไม่ขาย ทำไมไม่เอาของที่มีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดล่ะ ใช่ครับผมหมายถึงเจ้าหมูเวห์น รูนี่ห์ ผมสังเกตมานานแล้วว่าแม้ว่าโดยตำแหน่งแล้วรูนี่ห์เป็นกองหน้าแต่เจ้าตัวมักจะแรดลงมาต่ำเพื่อเชื่อมเกมส์และทำเกมส์บุกเองเป็นประจำ พับผ่าสิดันทำได้ดีด้วย พอลสโคลส์เองก่อนที่จะมาเล่นเป็นกองกลางก็เล่นเป็นกองหน้ามาก่อน แล้วทำไมรูนี่ห์จะทำไม่ได้ล่ะด้วยความสดความมุ่งมั่นและเซนต์บอลที่ดีเยี่ยมและมีการยิงไกลที่ทรงพลัง (แม้ว่าตอนนี้เรดาร์จะไม่ค่อยทำการณ์ก็ตาม) กองหน้าอาจไม่ใช่ตำแหน่งที่ดีที่สุดของรูนี่ห์อีกต่อไป ดีๆไม่ดีอาจจะได้นิวพอลสโคลส์และรอยคีนในคนๆเดียวก็ได้ก็พี่แกเล่นดุซะขนาดนั้น งานนี้เจอหมูป่าไล่งับแน่ๆ


 ช่วงหลังๆแมนยูก็ชอบเล่นหน้าเป้าคนเดียวอยู่แล้วทำไมต้องเลือกระหว่างเบอบาตอฟกับรูนี่ห์ด้วย? จับลงมันพร้อมกันนั่นแหละแต่จับรูนี่ห์มาเป็นหน้าต่ำก่อนก็ได้ พอเริ่มคุ้นแล้วค่อยถอยมาเป็นกองกลางเต็มตัว ถ้าวันไหนอยากจัดเกมส์รุกหนักๆ แบบ 4-4-2 ชิชาริโต้ก็สามารถเล่นคู่กับเบอบาตอฟได้ อย่างงี้ต้องลองครับป๋าจัดไปๆ ของดีมีอยู่อย่าให้เสียของ

วันพุธที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2554

แมนยูเฉือนสโต๊ค

แมนยูชนะสโต๊คไปได้ 2-1 นำเป็นจ่าฝูงต่อ ตอนแรกแอบคิดว่าคงไม่มีพลิกล๊อกไม่งั้นหนังสือพิมพ์และผองเพื่อนคงล้อว่าผีลงหม้อแน่ๆ 555 เมื่อคืนแมนยูส่งชุดผสมลงไปเล่นโดยไม่มีรูนี่ห์ที่เจ็บจากเกมส์ก่อน ไม่มีน้าซาร์กับเฟอร์ดินานที่ได้พัก นัดนี้แดนหน้าได้ชิชาริโต้ลงมาแทนรูนี่ห์โดยจับคู่กับพี่เถิกอารมส์ติสอย่างเบอบาตอฟ กองกลางได้นานี่กลับมาและมีไรอันกิ๊กมาประคองเกมส์ เมื่อคืนกิ๊กเก๋ามากมีลูกกระดกข้ามหัวคู่ต่อสู้ด้วยไม่อยากเชื่ิอว่าอายุปาไป 35 แล้วยังแพรวพราวได้ขนาดนี้แต่สปีดตกไปเยอะครับ


ช่วงแรกเกมส์ยังดูหนืดๆ ผมว่าเฟอร์กี้พักตัวจริงไว้หลายคนเพื่อเก็บไว้เจอกับลิเวอร์พูลในศึกเอฟเอคัพอาทิตย์นี้ เบอบาตอฟมีโอกาสยิงแต่กองหลังมาสกัดไว้ได้แต่แล้วนาทีที่ 27 ชิชาริโต้ก็ทำประตูได้ด้วยลูกไขว้เข้าไปอย่างสวยงาม เจ้าหมอนี่ท่าจะยิงลูกธรรมดากับเค้าไม่เป็น ใช้ท้ายทอยโหม่งบ้างล่ะ ก้มลงไปโหม่งในระยะสูงจากพื้นแค่คืบบ้างล่ะ เอาน่ายิงได้เป็นพอครึ่งแรกนำ 1-0 ครึ่งหลังโดนตีเสมอจากลูกสวนกลับเซ็งไปตามๆกัน แต่นานี่ก็ยิงประตูชัยในนาทีที่ 62 ลูกนี้ปั่นโค้งเข้าเสาสองได้งามหยดจริงๆ ผมว่านานี่ก็อีกคนนึงยิงลูกธรรมดาไม่ได้ต้องยิงแต่ลูกสวยๆทั้งนั้น ประมาณว่าลูกเบๆนานี่ไม่สวยๆบังขอ ท้ายเกมส์โอเว่นลงมาแทนชิชาริโต้ จำแทบไม่ได้แล้วนะนี่ว่าแมนยูยังมีโอเว่นอยู่ สุดท้ายแมนยูชนะไปแบบหนืดๆ 2-1 นำต่อไปโลดครับพี่น้อง อาทิตย์นี้เจอลิเวอร์พูลจัดเต็มเลยนะครับป๋า ^^

วันอังคารที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2554

ความทุ่มเทของรูนี่ย์

ก่อนหน้าผมเคยบ่นๆกับฟอร์มการเล่นของรูนี่ย์ที่ยิงประตูไม่ได้มานาน แต่ตอนนี้ผมคงต้องขอโทษรูนี่ย์ไม่ใช่ว่าเขาเพิ่งยิงประตูในนัดล่าสุดกับเวสบรอมวิชได้ แต่เป็นความทุ่มเทของเขาต่างหาก ผมมีโอกาสได้ดูเทปการแข่งขันนัดที่แมนยูไปเยือนเวสบรอมวิชเมื่อคืนนี้ รูนี่ย์ยิงประตูได้ตั้งแต่นาทีที่ 3 แต่ที่น่าสนใจคือรูนี่ย์มีส่วนกับเกมส์อย่างมากทั้งรุกทั้งรับ ตกลงพี่จะเป็นหมูหรือม้ากันแน่ครับ


 ท้ายเกมส์ตอนที่แมนยูนำ 2 -1  รูนี่ย์โดนเสียบอย่างหนักที่แข้งซ้ายลงไปกลิ้งเป็นลูกขนุน สต๊าฟแมนยูเข้าไปดูอาการและส่งสัญญาณให้เปลี่ยนตัว รูนี่ย์โดนหิ้วปีกออกไปแต่ตอนนั้ยแมนยูเปลี่ยนตัวครบแล้วเท่ากับแมนยูต้องเล่น 10 คนขณะที่ทดเวลาไปนานถึง 5 นาที อันตรายครับเกมส์ก่อนหน้าที่เจอเบอมิ่งแฮมแมนยูก็โดนตีเสมอตอนช่วงทดเวลา และเกมส์เยือนก่อนหน้านี้หลายเกมส์แมนยูก็โดนไล่ตีเสมอช่วงทดเจ็บเช่นกัน แต่สิ่งที่ทำให้ผมอึ้งคือรูนี่ย์ยกมือขอกรรมการและวิ่งโขยกเขยกลงสนามมาช่วยทีม แม้ว่าขาซ้ายจะเจ็บแต่ก็ยังใช้ขาขวาเคลียร์บอลออกไปได้ 2 - 3 ครั้ง สุดท้ายแมนยูก็ประคองตัวชนะไปได้และนำเป็นจ่าฝูงต่อไป แม้ร่างกายไม่สมบูรณ์แต่ใจนี่ผมขอกราบงามๆ ให้กับ "เวห์น รูนี่ย์" นักเตะหมายเลข 10 ของแมนยูคนนี้จริงๆ

วันจันทร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2554

ผีกาก้าจะมาแมนยู ?

สวัสดีปีกระต่ายครับพี่น้องชาวผี ไม่ได้อัพบล็อกซะนานเพราะว่าไปเที่ยวมา ^_^ วันนี้มีข่าวแว่วมาว่าแมนยูสนใจที่จะยืมตัวกาก้าจากรีลมาดริดมาในช่วงตลาดเปิดรอบ 2 กาก้าหรือครับ อืมถ้ายืมตัวมาก็น่าสนใจเอาแบบที่ยืมเตเบซมาก็น่าสนใจครับ 2 ปี 10 ล้านปอนด์ไม่มากไม่น้อยเกินไป กาก้าเก่งนะครับเมื่อ 3 - 4 ฤดูกาลก่อนตอนที่พี่แกเล่นอยู่กับมิลาน ผมยังจำได้ติดตาเลยครับตอนที่มิลานมาเยือนแมนยูใน UCL (ปี 2006 หรือ 2007 มั๊งครับไม่แน่ใจ) โอ้วแม่เจ้าเล่นยังกะเทพลากเลื้อยซะกองหลังแมนยูหัวปักหัวปำหลบทั้งริโอ หลอกล่อซะไฮเซ่ชนกับเอฟร่าดังโครมแล้วเข้าไปล่อเป้าฟานเดอซาร์ เก่งมากมายครับตอนนั้นไม่มีใครหยุดกาก้าได้จนมีคนแต่งเพลงผีกาก้ามาแซวชาวผีอย่างเราให้ช้ำใจ --"



แต่ตอนนี้ผมไม่แน่ใจว่ายังเก่งเหมือนเดิมหรือเปล่า ตั้งแต่ย้ายไปรีลมาดริดผมไม่เคยเห็นกาก้าคนที่เคยหลอกหลอนแมนยูอีกเลย ไม่รู้ว่ากาก้าย้ายไปอยู่กับทีมที่มีซุปตาร์มากมายจนทำให้ตัวเองไม่เด่นหรือกาก้าเลยจุดสุดยอดของตัวเองมาแล้ว? ยิ่งตอนบอลโลกนี่กาก้าดับสนิทเลยครับ ผมว่ายืมตัวมาน่ะดีแล้วถ้าเล่นดีก็ค่อยซื้อขาดถ้าไม่ดีก็ไม่ต้องเสียดายมากนัก อย่าลืมนะครับว่าพรีเมียร์ลีกต้องใช้ความแข็งแกร่งของร่างกายเป็นหลักพวกจอมเทคนิคจัดๆดับมานักต่อนักแล้ว ยังจำฮวนเวรอนได้มั๊ยเอ่ย? ตอนนั้นเวรอนจัดว่าเป็นกองกลางจอมเทคนิคระดับหัวแถวของโลก แมนยูทุ่มซื้อมา 28.1 ล้านปอนด์ ใครๆรวมทั้งผมคิดว่าเวรอนต้องทำให้แมนยูเป็นเสือติดปีกแน่นอน แต่ผิดครับเล่นได้ไม่คุ้มค่าตัวเลยเวรอนปรับตัวไม่ได้สุดท้ายก็ย้ายออกไป อยากให้แมนยูคิดถึงเวรอนเป็นกรณีศึกษาครับเพราะถ้าจะซื้อกาก้ามาเลยมันเสี่ยงมากครับค่าตัวไม่น่าต่ำกว่า 35 - 40 ล้านปอนด์ยืมมาก่อนน่ะดีแล้ว แต่มาดริดจะเล่นด้วยหรอ? เอาน่าลูกค้าประจำหยวนๆกันหน่อย